การทำความสะอาดห้องน้ำ: ปัญหาคราบสกปรกและคราบตะกรัน จะไม่กวนใจคุณอีกต่อไป
ห้องน้ำถือเป็นส่วนหนึ่งในบ้านที่ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในเรื่องความสะอาด และสุขอนามัย มีหลากหลายคำแนะนำในการทำความสะอาด ไม่ว่าจะเป็น โถสุขภัณฑ์ กระเบื้อง อ่างอาบน้ำ ฝักบัว อ่างล้างหน้า และส่วนอื่นๆภายในห้องน้ำ แต่ด้วยคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในครั้งนี้ ปัญหากวนใจเกี่ยวกับคราบสกปรกที่ฝังแน่นและคราบ “ตะกรัน” หรือ “หินปูน” ต่างๆ ในห้องน้ำของคุณจะหมดไปในทันที
วิธีการทำความสะอาดอย่างง่ายและรวดเร็ว: เคล็ดลับแนะนำการมีห้องน้ำที่สะอาด
ไม่ว่าห้องน้ำของคุณจะเป็นแบบแยกสัดส่วน หรือใหญ่ถึงขนาดเป็นสปาย่อมๆ ในบ้าน การหมั่นรักษาความสะอาดให้ห้องน้ำนั้นยังคงเป็นหัวใจสำคัญสำหรับหลายๆ คน นอกจากเรื่องความสวยงามของภาพลักษณ์โดยรวมแล้ว ยังรวมไปถึงเรื่องของสุขอนามัยอีกด้วย การทำความสะอาดที่ไม่ดีพอ สามารถทำให้แบคทีเรียรวมไปถึงเชื้อราสามารถก่อตัวและแพร่พันธุ์ได้ง่าย แน่นอนว่าระดับความชื้นและอุณหภูมิที่สูงก็มีผลเช่นกัน ดังนั้นการหมั่นทำความสะอาดพื้นห้องน้ำ โถสุขภัณฑ์ และกระเบื้อง จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก
เราควรทำความสะอาดห้องน้ำบ่อยแค่ไหน?
ส่วนใหญ่แล้วความถี่ในการทำความสะอาดห้องน้ำจะขึ้นอยู่กับความถี่ในการใช้งาน หากเป็นบ้านที่คุณอยู่เพียงลำพังก็อาจจะสร้างความสกปรกได้น้อยกว่าครัวเรือนที่อยู่กันหลายคนแบบครอบครัวใหญ่ ดังนั้นความถี่ในการทำความสะอาดก็จะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับความเหมาะสม แต่หากเป็นไปได้ห้องน้ำควรจะได้รับการทำความสะอาดอย่างจริงจังอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หนึ่งในวิธีการที่ดีคือการล้างคราบสบู่ที่ตกค้าง หรือคราบยาสีฟันออกจากอ่างล้างหน้าทันทีหลังการใช้งาน และเช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องน้ำทุกๆ 2-3 วันเพื่อป้องกันการเกิดจุดของคราบตะกรัน วิธีที่ดีที่สุดในการเช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ภายในห้องน้ำที่มีความมันเงา คือควรเลือกใช้ผ้าที่มีลักษณะนุ่มเช็ดทุกครั้งหลังการล้างมือของคุณ ด้วยวิธีนี้คราบตะกรันจะไม่มีโอกาสได้เริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ต้น
การล้างและเช็ดฝักบัวและอ่างอาบน้ำให้แห้งสนิททันทีหลังการใช้งาน จะช่วยรักษาความสะอาดได้ยาวนานมากขึ้น สำหรับการจัดการกับเส้นผมและฝุ่นบนพื้น คุณควรดูดฝุ่นทุกๆ 2-3 วัน มากไปกว่านั้น พื้นกระเบื้องควรได้รับการถูทำความสะอาดทุกๆ 1-2 สัปดาห์ เพื่อขจัดคราบสกปรกฝังลึก
เกร็ดความรู้:
ไอน้ำจะควบแน่นและเกาะอยู่บนหน้าต่างในห้องน้ำหลังจากการอาบน้ำ ซึ่งเป็นบ่อเกิดของเชื้อรา หมั่นระบายอากาศภายในห้องน้ำเพื่อไล่ไอน้ำออกไป และควรทำความสะอาดหน้าต่างทุกๆ 2-3 เดือน
งานทำความสะอาดและคุณสมบัติของการทำความสะอาดห้องน้ำ
แม้ว่าพื้นกระเบื้องและพื้นผิวเซรามิคโดยทั่วไปจะทำความสะอาดได้ง่าย แต่มีสิ่งที่คุณยังต้องคำนึงถึงไม่ว่าจะเป็น สารอินทรีย์ต่างๆ เช่น ขี้ไคล เส้นผม สิ่งปฏิกูลจากร่างกาย หรือแม้แต่คราบสบู่ เมื่อสิ่งตกค้างเหล่านี้รวมตัวกันอาจก่อให้เกิดคราบหินปูน คราบปัสสาวะภายในชักโครก หรือเกิดการเปลี่ยนสีของโถสุขภัณฑ์ และเกิดสนิมได้ การเช็ดทำความสะอาดทั่วไปอาจะไม่เพียงพอต่อการทำความสะอาดคราบเหล่านี้ นั่นอาจเป็นบ่อเกิดให้มีการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีฤทธิ์รุนแรง เช่น น้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำหรือผลิตภัณฑ์ประเภทกรด รวมถึงการใช้เครื่องมือขจัดคราบที่ใช้กำลังขจัดแบบรุนแรง สิ่งเหล่านี้อาจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อพื้นผิวของห้องน้ำได้หากใช้อย่างผิดวิธี
แต่หากคุณรู้วิธีการทำความสะอาดอย่างถูกวิธี และของใช้ที่มีติดบ้าน พร้อมเคล็ดลับและอุปกรณ์ที่เหมาะสม คุณจะสามารถมีห้องน้ำที่สะอาดได้ในเวลาอันสั้นโดยไม่ต้องเปลืองแรงขัดให้เสียเวลาเลยทีเดียว
การขจัดคราบตะกรันในห้องน้ำ
เมื่อไหร่ก็ตามที่สิ่งของภายในห้องน้ำนั้นถูกน้ำบ่อยๆ คราบตะกรันจะก่อตัวขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ห้องน้ำจะเป็นสถานที่ยอดฮิตในการก่อตัวของคราบตะกรันบนอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องน้ำ บนพื้นกระเบื้อง รวมถึงอ่างล้างหน้า แต่ถึงอย่างนั้น ด้วยอุปกรณ์พื้นฐานและเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถขจัดคราบออกได้อย่างง่ายได้ และป้องกันการเกิดคราบตะกรันที่จะเกิดขึ้นใหม่ได้อีกด้วย
คราบตะกรันก่อตัวขึ้นได้อย่างไร?
น้ำที่ก่อให้เกิดหินปูนหรือตะกรัน มักมีระดับแคลเซียลคาร์บอเนตสูง ถูกสร้างขึ้นเมื่อน้ำใต้ดินซึมผ่านหินปูน ยิ่งความเข้มข้นสูงน้ำก็จะยิ่งจับตัวแข็งขึ้นเป็นคราบหินปูนเกาะอยู่บนพื้นผิวกับสิ่งที่น้ำนั้นสัมผัส คราบหินปูนนี้จะเกิดขึ้นเมื่อน้ำร้อนขึ้นหรือเกิดการระเหยไป และทิ้งไว้เป็นจุดคราบสีขาวบนอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องน้ำ อ่างล้างหน้า บนพื้นกระเบื้อง หรือแม้แต่ก๊อกน้ำภายในห้องน้ำนั่นเอง
การขจัดคราบตะกรันด้วย “เครื่องทำความสะอาดไอน้ำ”
คราบตะกรันที่ไม่หนามากนั้นสามารถใช้เครื่องทำความสะอาดไอน้ำในการขจัดคราบออกได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเปลืองแรงขัดด้วยมือ วิธีการคือใช้หัวฉีดพ่นที่มีความละเอียดร่วมกับหัวแปรงทรงกลม นี่คือวิธีที่เหมาะสมในการทำความสะอาดพื้นผิวที่ละเอียดอ่อน ด้วยหัวฉีดพ่นที่มีความละเอียดนี้จะช่วยลดการเสียดสีบนพื้นผิวประเภทโครเมียม และชุดอุปกรณ์สเตนเลสภายในห้องน้ำ โดยจับหัวฉีดพ่นหันไปบริเวณที่มีคราบตะกรันจากนั่นพ่นไอน้ำที่บริเวณดังกล่าวจนกว่าคราบตะกรันหายไป หากคราบตะกรันยังไม่หายไปหรืออยู่ในบริเวณที่เข้าไม่ถึง คุณสามารถประกอบหัวแปรงทรงกลมเข้ากับหัวฉีดพ่นได้ จากนั้นจึงขัดไปที่บริเวณที่ต้องการ
แต่หากคราบตะกรันนั้นมีความหนามากเกินไป ให้คุณใช้มะนาวทำความสะอาดบริเวณดังกล่าวก่อนแล้วทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที จากนั้นจึงเริ่มใช้เครื่องทำความสะอาดไอน้ำในการทำความสะอาด เพียงเท่านี้คราบตะกรันก็สามารถถูกขจัดออกได้อย่างง่ายดาย
ที่สุดของใช้ในครัวเรือน ผู้ต่อกรกับคราบตะกรัน
ขจัดคราบตะกรันออกจากอะลูมิเนียมด้วยผงฟู
ผงฟูมีประโยชน์มากมายหลายด้าน ไม่เว้นแม้แต่การขจัดคราบตะกรันออกจากอะลูมิเนียม วิธีการคือ ผสมน้ำและผงฟูเขาด้วยกันให้ได้เนื้อที่มีความข้น จากนั้นถูส่วนผสมลงบนพื้นที่ที่ต้องการใช้งาน ปล่อยให้ผงฟูได้ทำงานสักครู่จากนั้นล้างออกด้วยน้ำหรือเช็ดออกด้วยผ้าหมาด ข้อดีของการใช้ผงฟูคือการช่วยลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ภายในห้องน้ำ และป้องกันการอุดตันของท่อได้อีกด้วย
ขจัดคราบตะกรันด้วยน้ำส้มสายชู
น้ำส้มสายชู อีกหนึ่งของใช้ติดบ้านที่ช่วยขจัดคราบตะกรัน โดยสามารถนำน้ำส้มสายชูมาใช้ได้ทั้งวิธีที่ไม่ต้องเจือจางก่อน สำหรับคราบตะกรันที่ฝังลึก หรือนำน้ำส้มสายชูมาเจือจางกับน้ำเปล่าก่อนในกรณีที่คราบตะกรันไม่ได้หนักมาก ซึ่งออกฤทธิ์เช่นเดียวกันกับกรดซิตริก ดังนั้นนั้นจึงสามารถใช้ทดแทนกันได้ โดยวิธีการคือนำผ้าขนหนูหรือผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบกับน้ำส้มสายชูหรือกรดซิตริกถูลงบนพื้นผิวที่ต้องการ ปล่อยให้กรดทำงานสักระยะเวลาหนึ่งหรือปล่อยทิ้งข้ามคืน จากนั้นล้างออกด้วยน้ำเย็นและเช็ดทุกอย่างให้แห้งด้วยผ้าสะอาดอีกครั้ง ซึ่งกรดในน้ำส้มสายชูถือว่ามีประโยชน์มากในการขจัดคราบหนักภายในโถสุขภัณฑ์นั่นเอง
เคล็ดลับ: เทคนิคการใช้ลูกโป่งขจัดคราบตะกรันฝังลึกในก๊อกน้ำ
ขจัดคราบตะกรันด้วยยาสีฟัน
รู้หรือไม่ว่าคุณสามารถใช้ยาสีฟัน และแปรงสีฟันอันเก่ามาขจัดคราบตะกรันที่ตกค้างบนก๊อกน้ำได้ โดยการเคลือบยาสีฟันลงบนคราบ จากนั้นทิ้งไว้สักครู่และขัดด้วยแปรงสีฟัน ตามด้วยล้างออกด้วยน้ำเปล่า ยาสีฟันมีฤทธิ์ในการกัดกร่อน อีกทั้งคืนความเงาวาวให้กับพื้นผิวของโครเมียมและอะลูมิเนียมได้อีกด้วย
ข้อควรระวัง: วัสดุบางประเภทไวต่อกรด เช่น หินอ่อน หรือหินจากธรรมชาติชนิดต่างๆ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำส้มสายชูหรือกรดซิตริกในการทำความสะอาด โดยผงฟูถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่า
ขจัดคราบตะกรันด้วยน้ำยาทำความสะอาด
อย่างไรก้ตามหากคุณต้องการใช้น้ำยาทำความสะอาดในการขจัดคราบฝังลึก คุณจำเป็นต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ออกฤทธิ์เป็นกรดระหว่างค่า pH 1-4 ซึ่งถือเป็นค่าที่เหมาะสมโดยขึ้นอยู่กับพื้นผิวที่ต้องการใช้ และจะดีกว่าหากคุณทดสอบน้ำยาทำความสะอาดลงบนจุดอื่นๆ ที่ไม่ถูกสังเกตได้ง่าย ก่อนจะใช้ลงทั่วทุกพื้นผิว เพราะกรดแก่ (ที่มีค่า pH ต่ำกว่า) อาจทำลายบางพื้นผิวได้ เช่น พื้นผิวโลหะทั่วไป ข้อต่อซีเมนต์ อโนไดซ์อะลูมิเนียม หรือแม้แต่พลาสติก ดังนั้นให้เลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดที่อ่อนโยนและทดสอบดูว่าได้ผลเพียงพอหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีน้ำยาทำความสะอาดที่วางขายพร้อมได้รับการรับรองว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ได้รับการรับรองจาก EU Ecolabel เพราะไม่เพียงแต่เป็นการทำเพื่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีกับวัสดุเครื่องใช้มากกว่าผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ผ่านการรับรอง
เคล็ดลับป้องกันการเกิดคราบตะกรันตั้งแต่ต้นตอ:
-
เช็ดแห้งช่วยได้ : ชุดอุปกรณ์บนอ่างล้างหน้า ในห้องอาบน้ำฝักบัว หรือในอ่างอาบน้ำ รวมไปถึงพื้นกระเบื้องและพื้นผิวกระจก ควรถูกทำให้แห้งอยู่เสมอหลังการใช้งาน โดยสามารถเช็ดแห้งได้ด้วย ผ้าไมโครไฟเบอร์ หรือฟองน้ำอย่างนิ่ม
-
หากในช่วงเวลาที่เร่งรีบไม่สามารถเช็ดแห้งได้ ควรล้างห้องอาบน้ำฝักบัว อ่างอาบน้ำ และชุดอุปกรณ์ต่างๆด้วยน้ำเย็น เพราะการใช้น้ำเย็นจะทำให้เกิดคราบตะกรันได้ช้ากว่าการใช้น้ำอุ่น
-
การใช้เครื่องทำความสะอาดไอน้ำเป็นประจำบนอุปกรณ์ในห้องน้ำ จะช่วยลดการเกิดคราบตะกรันก่อตัวได้ เพราะกระบวนการผลิตไอน้ำของเครื่อง จะลดแร่ธาตุของน้ำลง นั่นหมายถึงการพ่นไอน้ำจะไม่ทิ้งคราบไว้นั่นเอง