การทำความสะอาดเบาะรองนั่ง: เพื่อให้แน่ใจว่าโซฟา เบาะนั่งในรถยนต์ และฟูกที่นอน จะยังคงสภาพการใช้งานได้อย่างยาวนาน
ช่วงเวลายามเย็นบนโซฟาตัวเก่ง กับของทานเล่นที่คุณชอบและเครื่องดื่มแก้วโปรดสักแก้ว ทั้งยังรายล้อมไปด้วยเหล่าเด็กๆ และสัตว์เลี้ยงแสนรักอยู่ในห้องนั่งเล่นด้วนกัน แต่กว่าคุณจะรู้ตัวอีกที เศษขนมปังและคราบน้ำก็ได้หกเลอะเทอะลงบนเบาะนั่งของคุณเป็นที่เรียบร้อย เบาะนั่งในรถยนต์เอง ก็มักจะเจอกับปัญหาเหล่านี้ไม่ต่างกัน มาดูแลรักษาเบาะรองนั่งของคุณให้สะอาดอยู่เสมอด้วยเทคนิคเล็กๆ และของใช้ในบ้านเหล่านี้กันเถอะ
ทำไมเราถึงต้องทำความสะอาดเบาะเฟอร์นิเจอร์อย่างสม่ำเสมอ
โซฟาและเก้าอี้นวม ช่วยให้ห้องนั่งเล่นดูน่าอยู่และสะดวกสบาย ดังนั้นจึงเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มักถูกใช้งานอยู่เสมอ ของใช้เหล่านี้จึงมักเกิดคราบสกปรกได้ง่ายจากการใช้งาน และเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะสามารถเพลิดเพลินกับการใช้เฟอร์นิเจอร์เหล่านี้ได้ยาวนานหลายปี คุณจึงจำเป็นต้องดูแลทำความสะอาดเบาะนั่งเหล่านี้อยู่เป็นประจำ เนื่องด้วยเหตุผลต่างๆเหล่านี้:
- สิ่งสกปรกที่ฝังแน่นจะหายไป
- คราบเลอะที่ไม่น่าจะหายไป
- ขนของสัตว์เลี้ยงและไรฝุ่น จะถูกจัดออกให้สิ้นซาก
- เบาะของเฟอร์นิเจอร์จะยังคงดูดีและน่าใช้งาน รวมทั้งยืดอายุการใช้งานอีกด้วย
ทั้งหมดนี้ยังรวมไปถึงฟูกที่นอนและเบาะนั่งรถยนต์ ที่ควรได้รับการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอด้วยเช่นกัน
สำหรับสิ่งสกปรกบนพื้นผิวด้านบน: การดูดฝุ่น
สิ่งสกปรกที่เกาะอยู่บนพื้นผิวเบาะของเฟอร์นิเจอร์ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งสกปรกหรือเศษอาหารที่ตกหล่น ก็สามารถทำความสะอาดได้โดยง่ายด้วยเครื่องดูดฝุ่น ดังนั้นการเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมในการใช้งาน ก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน คุณควรเลือกใช้หัวดูดพลังเทอร์โบสำหรับเบาะ เพื่อการทำความสะอาดที่ล้ำลึกและละเอียดเป็นพิเศษ ในการทำดูดสิ่งสกปรกที่ฝังแน่น ขนสัตว์ หรือแม้แต่ไรฝุ่นที่อาจสะสมอยู่บนที่นอนและเบาะของเฟอร์นิเจอร์ได้ ด้วยเครื่องดูดฝุ่นแบตเตอร์รี่แบบไร้สาย พร้อมหัวดูดแบบซอกซอน ดังนั้น แม้แต่สิ่งสกปรกที่เกาะอยู่ระหว่างซอกเบาะและมุมโซฟา ก็สามารถขจัดออกได้อย่างง่ายดาย
สำหรับคราบฝั่งแน่น: เครื่องพ่นสเปรย์ทำความสะอาด
เบาะรองนั่ง เบาะรถยนต์ และที่นอน สามารถทำความได้ล้ำลึกถึงชั้นเส้นใยด้วยเครื่องพ่นสเปรย์ทำความสะอาด ที่สามารถซอกซอนได้ในคราบหนัก หลักการทำงานนั้นง่ายมาก: ผสมน้ำสะอาดและน้ำยาทำความสะอาดเข้าด้วยกัน จากนั้นสเปรย์ลงบนบริเวณที่ต้องการด้วยเครื่อง่นสเปรย์ทำความสะอาด และปิดท้ายด้วยการดูดสิ่งสกปรกออกจากเส้นใยอีกครั้งพร้อมกับสิ่งสกปรก ด้วยวิธีนี้ คุณจะสามารถทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก และระยะเวลาในการปล่อยให้บริเวณที่ทำความสะอาดนั้นแห้ง ก็จะสั้นกว่าเมื่อเทียบกับการขัดออกด้วยมือนั่นเอง
ขั้นตอนการทำงาน:
1. ขั้นตอนแรก ขจัดสิ่งสกปรกชิ้นใหญ่ๆที่มองเห็นได้ชัดออกจากเบาะรองนั่งหรือเบาะรถยนต์ออกก่อน ด้วยเครื่องดูดฝุ่น
2. จากนั้นเติมน้ำสะอาดลงในถังเก็บน้ำของเครื่องพ่นทำความสะอาด และเติมน้ำยาทำความสะอาดสำหรับพรมและเบาะนั่ง ตามสัดส่วนที่แนะนำ
3. ถัดมา ให้คุณสเปรย์ส่วนผสมดังกล่าว โดยเว้นระยะห่างระหว่างหัวฉีดพ่นและเบาะนั่ง ประมาณ 10 ซม. จากนั้นปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที เพื่อให้ส่วนผสมดังกล่าวทำงาน
4. วางหัวดูดแนบลงไปบนเบาะ จากนั้นค่อยๆดูดส่วนผสมที่ปล่อยทิ้งไว้ก่อนหน้านี้ ออกอย่างช้าๆ
5. จำไว้เสมอว่า คุณต้องให้พื้นผิวเบาะเปียกด้วยส่วนผสมของน้ำและน้ำยามำความสะอาดเสมอ เพื่อลดการทิ้งคราบน้ำไว้เมื่อพื้นผิวแห้งลง
6. ทำขั้นตอนดังกล่าวซ้ำๆ จนกว่าคุณจะไม่สามารถดังสิ่งสกปรกหรือส่วนผสมของน้ำยาทำความสะอาดออกมาจากเส้นใยได้อีก
7. หากคุณมีความจำเป็นต้องล้างทำความสะอาด ให้คุณล้างเพียง 1-2 ครั้งด้วยน้ำสะอาดเท่านั้น (อุณหภูมิของน้ำขึ้นอยู่กับประเภทของวัสดุ)
8. เผื่อเวลาไว้ให้เบาะได้แห้งตัวลง และอย่าลืมระบายอากาศภายในห้องหรือรถให้ดีในขั้นดังกล่าวนี้
9. ดูดฝุ่นอีกครั้งเมื่อเบาะแห้งตัวลง หรืออาจจะเป็นขั้นตอนที่ทำในวันถัดไป
10. ปิดท้ายด้วยขั้นตอนการลงน้ำยาเคลือบเบาะ ด้วยวิธีนี้เพื่อให้แน่ใจว่าเบาะของคุณจะสะอาดได้อย่างยาวนานมากยิ่งขึ้น
ด้วยวิธีการนี้ แม้แต่โซฟาเก่าหรือเบาะนั่งในรถที่มีคราบสกปรกฝังลึกก็สามารถทำความสะอาดได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม คุณควรตรวจสอบคุณสมบัติกันน้ำของวัสดุเหล่านั้นในจุดที่ไม่ได้เด่นชัดก่อนสเปรย์ลงบนพื้นผิวทั้งหมด ด้วยเครื่องพ่นสเปรย์ทำความสะอาดนี้ จะช่วยให้คุณสามารถฉีดพ่นน้ำทำความสะอาดลงบนพื้นผิวไปได้พร้อมๆกับการดูดสิ่งสกปรกออกมาในขั้นตอนเดียว
เคล็ดลับ:
คุณสามารถใช้เครื่องพ่นทำความสะอาด ขจัดคราบน้ำยาทำความอะอาดที่หลงเหลืออยู่บนเบาะได้ เช่น หากคราบสกปรกที่ถูกทำความสะอาดด้วยมือยังทิ้งรอยคราบเอาไว้ หรือหลงเหลือคราบน้ำยาทำความสะอาดอยู่บนเส้นใยจากการทำความสะอาดในครั้งก่อนหน้า
ยกระดับการทำความสะอาด: การขจัดคราบเฉพาะจุด
คราบบนโซฟ้าหรือเบาะนั่งในรถ สามารถก่อความน่ารำคาญกวนใจให้เราได้ ไม่ว่าจะเป็น คราบช็อคโกแลต ไวน์แดง คราบมัน หรือสิ่งสกปรกต่างๆ สิ่งเหล่านี้ต้องการการทำความสะอาดที่เร่งด่วน เพราะว่า:
- คราบที่พึ่งเกิดขึ้นใหม่ นั้นง่ายต่อการกำจัด
- คราบเก่านั้นระบุที่มาได้ยากกว่า
- คราบอาจแผ่ขยายวงกว้างได้ หากปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป
สำหรับคราบใหม่ที่ยังเปียกอยู่ โดยทั่วไปแล้วคุณควรดำเนินการทำความสะอาดอย่างรวดเร็ว ด้วยการใช้ผ้าที่แห้งและสะอาดซับคราบนั้นออก โดยไม่ควรขัดลงไปบนบริเวณคราบ หากไม่ดช่นนั้นของเหลวอาจะซึมลึกลงไปในเส้นใยและเนื้อผ้า จนก่อให้เกิดความเสียหายที่มากกว่าเดิม
กว่า 90% ของคราบนั้น สามารถละลายออกได้ด้วยน้ำเปล่า คุณสามารถลองทดสอบได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการใช้ผ้าขาวกับน้ำอุ่น หากน้ำเริ่มทำละลายกับคราบ นั่นหมายถึงคุณสามารถค่อยๆขจัดคราบออกจากเส้นใยด้วยวิธีการหมุนผ้าไปมาเล็กน้อย ด้วยลักษณะจากบนลงล่าง
สำหรับคราบที่ไม่สามารถละลายได้ด้วยน้ำ คุณควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอเนกประสงค์ ฉีดน้ำยาขจัดคราบลงบนผ้าที่สีไม่ตก จากนั้นค่อยๆซับจนกว่าคราบจะหลุดออกไป นอกจากนี้คุณยังสามารถทำความสะอาดบริเวณดังกล่าวได้ด้วยเครื่องพ่นทำความสะอาด เพื่อขจัดคราบน้ำยาทำความสะอาดที่อาจหลงเหลืออยู่บนเส้นใย ซึ่งในกรณีนี้คุณควรทดสอบลงบนบริเวณพื้นผิวที่ไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนก่อน
เคล็ดลับ: ใช้ไอน้ำเพื่อขจัดคราบ
ในการทำความสะอาดบรรดาเหล่าโซฟา เครื่องพ่นไอน้ำนั้นเป็นผู้ช่วยที่มีประโยชน์อย่างมาก เพราะหากคุณต้องการขจัดคราบเล็กๆ เพียงคุณวางหัวฉีดแบบซอกซอนทำมุมกับเบาะ แล้ววางผ้าไมโครไฟเบร์ไว้ข้างๆ แล้วค่อยๆปล่อยไอน้ำออกมา พลังของไอน้ำจะไปกระจายรอยเปื้อนให้ลงมาอยู่บนผ้าไมโครไฟเบอร์แทนนั่นเอง
คำแนะนำ: ควรทดผ้าที่นำมาใช้เสียก่อน ว่ามีปฏิกิริยาที่ไวต่ออุณหภูมิหรือไม่ ในบริเวณที่ไม่ถูกสังเกตได้ง่าย เพราะหากเป็นเช่นนั้น วิธีนี้อาจจะยังเป็นวิธีที่ไม่เหมาะสมในการใช้งาน
ของใช้สามัญประจำบ้าน ที่เหมาะต่อการขจัดคราบ
หากคุณไม่ต้องการใช้น้ำยาทำความสะอาดประเภทที่มีสารเคมี และไม่มีเครื่องพ่นทำความสะอาดติดบ้านแล้วล่ะก็ เราอยากให้คุณได้ลองใช้ของใช้สามัญประจำบ้าน ที่ได้ผ่านการทดสอบมาแล้วว่าได้ผลในการขจีดคราบได้จริง
ตัวช่วยสำคัญในการขจัดคราบ: เบกกิ้งโซดา
เบกกิ้งโซดานั้นมีประโยชน์อย่างมากในการขจัดคราบต่างๆบนเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน เช่น คราบกาแฟหรือคราบไวน์แดง เพียงแค่คุณโรยผงเบกกิ้งโซดาลงบนคราบ จากนั้นปล่อยทิ้งไว้ข้ามคืน และดูดเศษผงออกได้ในวันถัดไป
หรือสามารถใช้ด้วยวิธีแบบเปียกก็ได้เช่นกัน โดยเริ่มจากการดูดทำความสะอาดสิ่งสกปรกออกจากเบาะก่อน จากนั้นผสมเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำ 1 ช้อนโต๊ะ และทาส่วนผสมลงบนบริเวณคราบที่ต้องการขจัด ทั้งนี้ปริมาณขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานของคุณ หลังจากนั้นค่อยๆถูคราบดังกล่าวด้วยฟองน้ำหรือผ้าบิดหมาด และปล่อยให้ส่วนผสมดังกล่าวแห้งตัวลง เพราะเมื่อส่วนผสมแห้งแล้ว จะสามารถดูดทำความสะอาดออกได้นั่นเอง
น้ำสะอาดและเกลือ ตัวช่วยสำคัญในการขจัดคราบไวน์แดง
เพียงแค่น้ำสะอาดก็สามารถขจัดคราบไวน์แดงได้ ให้คุณค่อยๆเทน้ำสะอาดลงบนคราบอย่างระมัดระวัง จากนั้นซับให้แห้งด้วยกระดาษ โดยเกลือและแป้งข้าวโพด จะสามารถช่วยดูดซับของเหลวได้: ค่อยๆโรยเกลือลงบนบริเวณที่ต้องการ ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง จากนั้นจึงใช้เครื่องดูดฝุ่น ดูดผงเกลือที่แห้งแล้วออก แต่หากคราบได้แห้งลงไปแล้ว เลม่อนและน้ำส้มสายชู ก็สามารถเป็นผู้ช่วยได้เช่นกัน: เพียงจุ่มผ้าลงในน้ำเลม่อน หรือน้ำส้มสายชู แล้ววางลบนคราบให้ชุ่ม ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จากนั้นจึงใช้กระดาษซับให้แห้ง และปิดจบขั้นตอนสุดท้ายด้วยการสเปรย์น้ำสะอาดลงบนบริเวณที่ต้องการ และซับให้แห้งอีกครั้งเป็นอันเรียบร้อย
ใช้น้ำเลม่อนขจัดรอยคราบเลือด
ถึงแม้จะเป็นเพียงการบาดเจ็บเล็กๆ แต่เลือดก็อาจจะกระเด็นไปหยดลงบนที่นอนหรือโซฟาของคุณได้เช่นกัน หากคราบเลือดนั้นพึ่งเกิดขึ้น โดยทั่วไปแล้วคุณสามารถล้างคราบเลือดออกได้ด้วยน้ำสะอาด เทคนิค: หลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อน เนื่องน้ำร้อนอาจทำให้โปรตีนในเลือดในแข็งตัว และจับตัวติดกับเส้นใยผ้าได้
หากคราบเลือดแห้งไปแล้ว น้ำเลท่อนสามารถเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยได้เช่นกัน โดยผสมเกลือเข้ากับน้ำเลม่อน โดยทาส่วนผสมลงบนคราบที่ต้องการทำความสะอาด และปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที จากนั้นจึงใช้กระดาษเช็ดออก แล้วสเปรย์บริเวณดังกล่าวด้วยน้ำสะอาดอีกหนึ่งรอบก่อนซับให้แห้งด้วยกระดาษให้แห้งอีกหนึ่งครั้งเป็นอันเสร็จสิ้น หรืออีกวิธีคือการทำความสะอาดด้วยน้ำและเบกกิ้งโซดา ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบแล้วว่าสามารถใช้ทำความสะอาดได้จริง
การใช้น้ำยาล้างจานหรือสบู่ เพื่อขจัดคราบไขมัน
น้ำอุ่นและน้ำยาล้างจาน หรือสบู่ขจัดคราบ ส่วนใหญ่แล้วเพียงพอต่อการขจัดคราบมันออกจากเบาะนั่งได้: เพียงซับคราบทั้งเก่าและใหม่ด้วยน้ำเล็กน้อย จากนั้นผสมน้ำยาล้างจานหรือสบู่ทำความสะอาดด้วยน้ำ แล้วค่อยๆเกลี่ยลงบนบริเวณที่มีคราบไขมัน นวดวนบนบริเวณที่ทาส่วนผสมลงไปโดยค่อยๆเริ่มจากขอบก่อน หากคราบเริ่มหลุดออก ให้คุณซับบริเวณดังกล่าวอีกครั้งด้วยน้ำอุ่น เพื่อทำการขจัดคราบน้ำยาล้างจานที่ตกค้างออกนั่นเอง
เคล็ดลับทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์หุ้มหนัง
การทำความสะอาดและบำรุงรักษาเฟอร์นิเจอร์หุ้มหนังนั้น มีความแตกต่างกันกับโซฟา เก้าอี้นวม และเบาะนั่งในรถยนต์ที่หุ้มด้วยผ้า เนื่องจากสามารถกำจัดฝุ่นละอองหรือเศษอาหารที่ตกหล่นออกได้ด้วยการเครื่องดูดฝุ่น โดยในการทำความสะอาดหนังนั้น คุณควรหมั่นเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวด้วยผ้าหมาด และไม่ควรใช้น้ำยาทำความสะอาด เช่น น้ำยาล้างจาน เนื่องจากอาจทำให้วัสดุประเภทหนังนั้นแห้งได้ โดยควรใช้วิธีละลายสบู่ที่มีฤทธิ์เป็นกลางผสมกับน้ำอุ่น ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
โดยพื้นฐานแล้ว วัสดุประเภทหนังไม่ควรชื้นเกินไปในระหว่างการทำความสะอาด และของเหลวที่อาจหกเลอะ เช่น เครื่องที่รั่วไหล ควรได้รับการทำความสะอาดโดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมในการดูแลเครื่องหนังนั้น เป็นสิ่งเราอยากแนะนำ
เคล็ดลับ:
การทำความสะอาดด้วยน้ำกลั่นหรือน้ำที่ต้มแล้ว จะช่วยป้องกันการเกิดจุดคราบของน้ำได้